แนวคิดสำหรับการเลือกลำโพงให้ระบบเสียงในรถยนต์
ฟังก์ชั่น และการทำงานของลำโพง
ก่อนที่เราจะเข้าสู่เรื่องราวของการเลือกลำโพงนั้น ผมก็อยากจะพาคุณมาทำความเข้าใจถึงรูปแบบการทำงานของลำโพงกับแบบคร่าวๆสัก หน่อยกันก่อนก็แล้วกันนะครับ
กล่าวคือ ด้วยรูปแบบ และจุดประสงค์ของลำโพงนั้น คือการสนับสนุนการทำงานของคลื่นเสียง ด้วยการแปลงสัญญาณออดิโอที่มาในรูปแบบของสัญญาณไฟฟ้าจาก เพาเวอร์แอมป์ ด้วยการสร้างคลื่นเสียงโดยอาศัยแรงดันอากาศ ให้ออกมาเป็นเสียงอย่างที่เราได้ยินกันนั่นเอง…โดยการเดินทางของสัญญาณเสียงนั้น มันก็เริ่มกันจากสัญญานความถี่ขนาดพอประมาณที่มาจากตัวของ Head Unit นั่นละครับ ที่ถูกส่งสัญญาณเข้าหา เพาเวอร์แอมป์ ด้วยสายสัญญาณ ที่โดยมากแล้วมันก็จะเป็นเจ้า RCA Cables ที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว จากนั้นตัวของ เพาเวอร์แอมป์ ก็จะทำการขยายสัญญาณให้ใหญ่ขึ้น แล้วผ่านไปให้กับขดลวดของลำโพง (Speaker Wire) ต่อจากนั้นตัวลำโพงก็จะทำการแปลงสัญญาณไฟฟ้า ให้เป็นพลังงานจักรกล (Mechanical Energy) เพื่อให้เกิดเสียงอย่างที่เราได้ยินกัน
รู้จักกับลำโพง…
มันก็เหมือนกับองค์ประกอบอื่นๆของระบบนั่นละครับ แต่ว่ามันจะแตกต่างตรงที่ว่า ลำโพงมันดันเป็นด่านสุดท้ายของระบบ ดังนั้นมันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดครับ เพราะว่าคุณมิอาจจะทำการเพิ่มเติม หรือแต่งแต้มสีสันใดๆได้อีกแล้ว ดังนั้นในการเลือกลำโพงให้สมดุลกับระบบของคุณ มันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด และมิอาจมองข้ามได้…ซึ่งลำโพงในอุดมคติ หรือลำโพงที่ดีนั้น มันจะต้องสามารถที่จะทำการคัดลอก หรือทำสำเนาของเสียง และแยก Spectrum Audio จาก ต้นแบบได้ถูกต้องทั้งหมด แต่โชคไม่ดีครับ ที่ลำโพงส่วนมาก มักจะมีความสามารถในการผลิตมวลของสัญญาณเสียงในด้านของเสียง กลาง/ต่ำ ได้เสียมากกว่า มีน้อยมากครับ ที่จะให้เสียงในย่างความถี่สูงได้อย่างที่เราต้องการ
ด้วยเหตุนี้เองครับ จึงทำให้ทางผู้ผลิตจึงได้คิดค้น และก่อเกิดลำโพงขึ้นมาอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ลำโพงแบบแกนร่วม (Coaxial) , ลำโพงแบบแยกชิ้น (Component Sparkers) , และลำโพงแบบ ซับวูฟเฟอร์ (Subwoofers) ขึ้นมา เพื่อใช้สำหรับลดความถี่ต่ำ และเพิ่มความถี่สูง หรือสำหรับการใช้เน้นความถี่ต่างๆของเสียงดนตรี ตามที่ต้องการนั่นเองแต่ ว่า…ในเรื่องของคุณภาพเสียง และคุณภาพในการผลิตนั้น มันก็ต้องมีเรื่องของสนนราคามาเป็นตัวแปรด้วยอย่างหลีกเลี่ยงมาได้เหมือนกัน ครับ
นอกจากจากเรื่องของราคา และค่าใช่จ่ายที่เพิ่มขึ้นนั้น มันยังมีตัวแปรอื่นๆมาเป็นองค์ประกอบอีกต่างหากด้วย ไม่ว่าจะเป็นสภาวะแวดล้อม , การออกแบบระบบ และพื้นที่สำหรับการติดตั้ง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วยนะครับ ก่อนที่คุณจะทำการเลือกซื้อลำโพง…
แนวคิดเบื้องต้นในการเลือกลำโพง
- ฟังเสียงก่อนตัดสินใจ ในการเลือกซื้อลำโพงนั้น เพื่อให้แน่ใจจริงๆ ผมขอแนะนำว่าคุณควรจะฟังเสียงของมัน ก่อนที่ จะตัดสินใจ มันไม่เสียหายหรอกครับที่จะบอกกับทางร้านว่าของฟังเสียงจากลำโพงเสียก่อนที่ จะตัดสินใจซื้อ เพราะว่าทางร้านค้าที่ได้มาตรฐานจริงๆ เขามักจะมีห้องลองเสียงอยู่แล้ว เพื่อให้ลูกค้าสามารถที่จะลองฟังก่อนซื้อได้ โดยฟังลำโพงในแบบที่หลากหลาย เลือกหลายตัว แล้วเลือกแบบที่ถูกใจเก็บไว้ มันจะทำให้ตัวเลือกในการซื้อนั้นมันแคบลง
- ให้ฟังเสียงในแบบที่เป็นธรรมชาติ นั่น ก็หมายความว่า ให้ฟังเสียงจากลำโพงที่มีการปรับแต่งเสียงให้น้อยที่สุดนั่นเองครับ เพราะว่าถ้าระบบมีการปรับแต่งเสียงที่แหลมจัดจนเกินไป หรือมีการปรับเบสที่หนักจนเกินไปนั้น มันจะทำให้เกิดอาการล้า และเบื่อหน่ายต่อการฟังในที่สุด ดังนั้นในการฟังเสียงจากลำโพงนั้น ควรจะฟังในรูปแบบที่สบายๆ ที่เป็นธรรมชาติ แล้วพินิจพิเคราะห์ถึงความถี่เสียง ว่าเป็นไปอย่างที่คุณต้องการหรือไม่นั่นเองครับ
- ระวังลูกเล่นของผู้ขาย ที่เจอส่วนมากก็มักจะเป็นในรูปแบบของการแอบหมุน Volume ที่ทำให้เหมือนว่า ลำโพงตัวที่แพงกว่า มันมีเสียงที่ดูดัง ดีกว่า และกระหึ่มกว่าลำโพงอีกตัวหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้ว มันไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปหรอกครับ
- เลือกแบบที่มีการดัดแปลงตัวรถให้น้อยที่สุด ที่ บอกอย่างนั้นก็เพราะว่า การดับแปลงตัวรถ หรือการเปลี่ยนรูปแบบการติดตั้งที่ต่างไปจากของเดิมนั้น หมายถึงค่าใช้จ่ายที่มันจะต้องเพิ่มขึ้นด้วย อย่างเช่นช่องสำหรับติดตั้งลำโพง เอาในแบบที่มันเหมาะเจาะลงตัวกับปัจจุบัน พิจารณาถึงความลึก หรือความหนาของลำโพงด้วย โดยเฉพาะลำโพงที่ประตูรถนั้น คุณต้องดูให้แน่ใจนะครับว่ามันมีผลต่อการขึ้นลงของกระจกหรือไม่ พร้อมทั้งในเรื่องข้อจำกัดของความร้อนที่จะเกิดขึ้น และระบบไหลเวียนของอากาศด้วย แต่ถ้าคุณต้องการจะเปลี่ยนแปลงมันอยู่แล้ว อันนี้มันก็อีกเรื่องหนึ่ง
- ลำโพงที่ Rear Decks หมาย ถึงลำโพงที่แผงหลังของรถยนต์แบบเก๋งนั่นละครับ ซึ่งโดยมากนักเลงเครื่องเสียง มักจะใช้เป็นที่โชว์ ซับวูฟเฟอร์ อันนี้ต้องพิจารณาถึงความลึกของลำโพงด้วย และข้อจำกัดของขนาดบาร์ด้วยนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถยนต์ที่ใช้ GAS ที่มักจะมีปัญหาในเรื่องของถัง GAS ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนครับ